โรคทางเดินปัสสาวะ

รายชื่อโรคทางเดินปัสสาวะรวมถึงโรคของระบบทางเดินปัสสาวะชายและระบบทางเดินปัสสาวะในสตรี ดังนั้นในทางตรงกันข้ามกับความหลงผิดบ่อยนักทางเดินปัสสาวะไม่ได้เป็นหมอ "ผู้ชาย" เขาประสบความสำเร็จในการรักษาโรคทางเดินปัสสาวะและในสตรี ในขณะเดียวกันการวินิจฉัยโรคและการรักษาโรคของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงเป็นสิทธิพิเศษของนรีแพทย์อย่างไร

ประเภทและอาการของโรค urological ในสตรี

สถิติทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่าจำนวนรายงานกรณีโรคระบบทางเดินปัสสาวะต่างๆในประเทศของเราในช่วงสิบห้าปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 25% ในขณะเดียวกันอุบัติการณ์ของโรคระบบทางเดินปัสสาวะเกือบทั้งหมดเพิ่มขึ้นในระดับมากหรือน้อย รายชื่อพยาธิดังกล่าวค่อนข้างกว้างขวาง จากหลายโหลของโรคทางเดินปัสสาวะในผู้หญิงที่พบมากที่สุดคือ:

พยาธิสภาพของทางเดินปัสสาวะแต่ละครั้งมีอาการลักษณะเฉพาะของตัวเอง แต่มีสัญญาณจำนวนมากซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคทางเดินปัสสาวะส่วนใหญ่

อาการ "คลาสสิก" ซึ่งการปรากฏตัวบ่งชี้ถึงโรคระบบทางเดินปัสสาวะที่เป็นไปได้ในสตรีมีดังต่อไปนี้:

การวินิจฉัยและการรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ

การวินิจฉัยโรค urological รวมถึงชุดของมาตรการเพื่อระบุสาเหตุและกำหนดระดับของพยาธิวิทยาซึ่งจะรวมถึง:

เนื่องจากโรคระบบทางเดินปัสสาวะของผู้หญิงส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อของอวัยวะระบบทางเดินปัสสาวะการรักษาจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุสาเหตุของการติดเชื้อและการกำจัดโรค การรักษาหลักของโรคทางเดินปัสสาวะจะดำเนินการโดยยาต้านแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ) ในโปรไบโอติกแบบขนานจะถูกนำ หลังจากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะคุณอาจต้องใช้เวลาในการรักษาโรคประจำตัววิตามินซีการเตรียมภูมิคุ้มกันโรคอาหารที่ปราศจากเกลือ ในบางกรณีจำเป็นต้องมีการผ่าตัดรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ

การป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะ

การพัฒนาโรคทางเดินปัสสาวะส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้หากปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่เรียบง่าย การป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ :

  1. การรักษาทันตกรรมของโรค (ต่อมทอนซิลอักเสบ, stomatitis, ไซนัสอักเสบ, โรคหูน้ำหนวก, โรคฟันผุ, โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร) รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  2. ปราศจากเงื่อนไขการยึดมั่นในกฎอนามัยส่วนบุคคลรวมทั้งสุขอนามัยของอวัยวะเพศ
  3. สวมชุดชั้นในที่สบายตามธรรมชาติ
  4. หลีกเลี่ยงภาวะ hypothermia ความเครียดการทำงานมากเกินไป
  5. โภชนาการที่เหมาะสมลดการบริโภคอาหารรสเผ็ดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  6. การรักษาชีวิตทางเพศอย่างเป็นระเบียบการปฏิบัติตามสุขอนามัยในชีวิตทางเพศ
  7. การรักษาอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบเรื้อรัง