เด็กเสีย

พ่อแม่ที่พ่อแม่รักต้องการให้ลูกกินอาหารที่ดีที่สุดคือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของเล่น ล้อมรอบด้วยทะเลแห่งความรักและความเสน่หา แต่มันเกิดขึ้นที่แม่และพ่อเพลิดเพลินกับ whims ของเด็กไม่กล้าที่จะปฏิเสธ whims ใด ๆ ของเขา แล้วทรราชตัวเล็ก ๆ ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นความต้องการดังที่เขาต้องการ บิดามารดางงงวยเมื่อไหร่และทำไมทารกของพวกเขาจึงเป็นเช่นนั้น และคำถามหลักถ้าเด็กนิสัยเสียอยู่ในครอบครัวเป็นสิ่งที่ต้องทำ?

สิ่งที่ทำให้เสีย?

การศึกษาในโรงเรียนคิดว่าเด็กไม่ดี ความสับสนเกิดขึ้นเมื่อพ่อแม่สับสนแนวคิดเรื่อง "การศึกษา" กับแนวคิดเรื่อง "ยก" นั่นคือการแต่งกายและให้อาหาร คุณแม่และพ่อหลายคนไม่มีเวลาว่างให้กับคนรุ่นใหม่ทำงานได้อย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน ความสับสนยังปรากฏด้วยวิธีการที่แตกต่างกันของผู้ปกครองและปู่ย่าตายายเพื่อการศึกษา เมื่อเด็กถูกทำลายพวกเขาจะโดดเด่นด้วยความเป็นตัวตนความเห็นแก่ตัวความเป็นอิสระจากพ่อแม่และความประสงค์ของพวกเขา ลูกจ้างมีอารมณ์ไม่มั่นคงและไม่ทราบว่าจะสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนได้อย่างไร ทารกดังกล่าวใช้ในการรับสิ่งที่พวกเขาต้องการเมื่อต้องการและไม่ทราบคำว่า "ไม่" หรือ "ไม่" เมื่อพยายามที่จะปฏิเสธที่จะซื้อเครื่องอื่นลูกสาวม้วนอารมณ์ฉุนเฉียวด้วยน้ำตา, ตีมือของพวกเขาบนพื้น ฯลฯ

วิธีการฟื้นฟูเด็กนิสัยเสีย

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้พ่อแม่ต้องอดทนและมั่นคง หลังจากที่ทุกคนลูกจะต้องได้รับการสอนที่จะให้ขึ้นความปรารถนาของเขา เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับเด็กและอธิบายเหตุผลในการปฏิเสธ อธิบายว่าคุณจะไม่ปฏิบัติตามความปรารถนาไม่ใช่เพราะคุณไม่ได้รัก แต่เป็นเหตุผลที่มีเหตุผล มากที่สุดเด็กจะเข้าใจและม้วนขึ้นตีโพยตีพายไม่ได้เป็น หากใช้น้ำตาและร้องไห้อย่าเปลี่ยนความเสี่ยง ไปที่ห้องอื่นหรือเปิดทีวีดังขึ้น แน่นอนว่าเด็กหนุ่มจะเหนื่อยกับการตะโกนและหลังจากผ่านไป 20 นาทีเขาก็จะสงบลง เด็กต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความคิด "เป็นไปไม่ได้" และ "สามารถ" ใช้วลีเช่น "impossible", "not allow" และออกเสียงด้วยเสียงที่เข้มงวด แต่ต้องสอดคล้องกัน - ถ้าไม่สามารถสัมผัสโทรศัพท์ได้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เลย! เห็นด้วยกับปู่ย่าตายายเกี่ยวกับการศึกษาที่ถูกต้องพวกเขาก็ไม่ควรไปเกี่ยวกับหลานชายที่รัก

วิธีที่จะไม่ทำให้เสียเด็ก?

หากพ่อแม่ไม่ต้องการเสียลูก ๆ ของพวกเขาก็คุ้มค่าที่จะติดคำแนะนำบางอย่าง:

  1. อย่าทำเพื่อเด็กสิ่งที่เขาสามารถทำเองได้
  2. ปฏิบัติตามกฎ "ไม่ - หมายถึงไม่!" โดยไม่มีข้ออ้าง
  3. กระตุ้นการรับพฤติกรรมที่ดีที่ต้องการการปฏิบัติตามงาน
  4. สมัครรับคำมั่นสัญญาจากสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ เพื่อไม่ให้มีส่วนร่วมในการทำให้เด็กเสีย